การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับแร่หินสบู่และโรคมะเร็งรังไข่
ศึกษาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับแร่หินสบู่และโรคมะเร็งรังไข่
การศึกษาวิจัย Nurses’ Health Study หรือ NHS เป็นการศึกษาวิจัยสุขภาพในกลุ่มอาสาสมัครเพศหญิงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการทำการศึกษาวิจัย การศึกษาวิจัยจากเหตุไปหาผลที่รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนการวิจัยนี้ ได้ทำการศึกษาปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคเรื้อรังสำคัญในเพศหญิงนับตังแต่ปีค.ศ. 1976

การศึกษาวิจัย Nurses’ Health

แสดงให้เห็นถึงการไม่เพิ่มขึ้นโดยรวม

ในความเสี่ยงของโรคมะเร็งรังไข่
24
ปีของ
การศึกษาวิจัย
78,630
ผู้หญิง
31,789
ที่ใช้แร่หินสบู่
การศึกษาวิจัย Women’s Health Initiative (WHI) ก่อตั้งขึ้นโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health) ของประเทศสหรัฐอเมริกา 1991 เพื่อศึกษาสุขภาพของอาสาสมัครเพศหญิงในวัยหมดระดู การศึกษาวิจัยจากเหตุไปหาผลนี้ได้ทำการสืบค้นปัญหามากมายที่สัมพันธ์กับการรักษาด้วยฮอร์โมนและโรคมะเร็งเต้านม และผลกระทบเกี่ยวกับโรคมะเร็งและโรคหัวใจจากการบริโภคอาหาร

การศึกษาวิจัย Women’s Health Initiative

แสดงให้เห็นถึงการไม่เพิ่มขึ้นโดยรวม

ในความเสี่ยงของโรคมะเร็งรังไข่
12
ปีของ
การศึกษาวิจัย
61,576
ผู้หญิง
32,219
ที่ใช้แร่หินสบู่
การศึกษาวิจัย Sister Study ดำเนินการตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003-2009 ด้วยการสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพด้านสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (National Institute of Environmental Health Sciences) เป็นการวิจัยซึ่งเป็นจุดหลักสำคัญของความพยายามในการค้นหาสาเหตุของโรคมะเร็งเต้านม

การศึกษาวิจัย Sister Study

แสดงให้เห็นถึงการไม่เพิ่มขึ้นโดยรวม

ในความเสี่ยงของโรคมะเร็งรังไข่
6
ปีของ
การศึกษาวิจัย
41,654
ผู้หญิง
5,735
ที่ใช้แร่หินสบู่

การศึกษาวิจัยอื่น ๆ

The most recent cohort study, published in the Journal of the American Medical Association, pooled a number of high-level epidemiological studies and found no statistically significant increased risk of ovarian cancer with talc use.9 The study reconfirms that a statistical association between ovarian cancer and powder users is not found in large, prospective cohort studies, although some, but not all, case-control studies do indicate a slight statistical association. การศึกษาวิจัยจากผลไปหาเหตุหลายโครงการได้ดำเนินการโดยการสอบถามกลุ่มคนที่มีประวัติของโรคใดโรคหนึ่งโดยเฉพาะเกี่ยวกับปัจจัยความเสี่ยงที่เป็นไปได้ ปัจจัยความเสี่ยงเหล่านี้อาจรวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์บางอย่างในอดีต เหตุผลที่เป็นไปได้ข้อหนึ่งที่บางการศึกษาวิจัยได้พบว่ามีความเกี่ยวข้องเชิงสถิติที่แตกต่างเล็กน้อยคือความเป็นไปได้ของการประเมินความสัมพันธ์กับความจริงที่มากเกินไปเนื่องจาก “ความทรงจำที่มีอคติ” (recall bias) ความทรงจำที่มีอคติคือเมื่อบุคคลที่เป็นโรคมักประเมินการได้รับสัมผัสปัจจัยเสี่ยงของตนมากเกินกว่าบุคคลที่ไม่เป็นโรค ในการศึกษาวิจัยเหล่านี้ อาสาสมัครเพศหญิงที่ทราบว่าตนเป็นโรคมะเร็งรังไข่จะพยายามทบทวนความจำถึงทุกสิ่งว่าสิ่งใดมีความสำคัญซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ตนเป็นโรคร้ายแรงนี้ ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าอาสาสมัครเพศหญิงที่เป็นโรคมะเร็งนั้นได้ใช้แป้งโรยตัว8

การศึกษาวิจัยแร่หินสบู่และมะเร็งเซลล์บุผิวเยื่อหุ้มปอดชั้นนอก
มะเร็งเซลล์บุผิวเยื่อหุ้มปอดชั้นนอกเป็นโรคมะเร็งที่พบได้น้อยมากรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท การได้รับสัมผัสใยหินก็มีความเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งเซลล์บุผิวเยื่อหุ้มปอดชั้นนอกบางประเภท ใยหินเป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งพบได้ในสิ่งแวดล้อม และเส้นใยจำนวนเล็กน้อยของมันอยู่โดยรอบตัวเรา ทั้งในอากาศที่เราหายใจ ในน้ำที่เราดื่ม ดินและอาหารบางอย่าง

ไม่มีการศึกษาวิจัยที่สำคัญใดบ่งชี้ว่าการสูดหายใจเครื่องสำอางแป้งฝุ่นเข้าสู่ร่างกายก่อให้เกิดโรคมะเร็งเซลล์บุผิวเยื่อหุ้มปอดชั้นนอก
ทั้งนี้ได้มีการศึกษาวิจัยหลายชิ้นกับกลุ่มประชากรจำนวนหลายพันคนที่ได้สัมผัสแร่หินสบู่เป็นประจำทุกวัน จากการทำงานในเหมืองหรือโรงโม่แป้งฝุ่น การศึกษาวิจัยเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการสัมผัสแร่หินสบู่ในปริมาณสูงนั้นไม่เพิ่มความเสี่ยงของการพัฒนาโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอด

การศึกษาวิจัยคนงานในเหมืองและโรงโม่

ไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอด
2,149
คนงานเหมืองและคนงานโรงโม่สัมผัสกับแร่หินสบู่ทุกวัน
ที่ได้เข้าร่วมการศึกษาวิจัยเป็นเวลา
40
ปี

แร่หินสบู่ถูกใช้เพื่อลดการคั่งของน้ำในปอด

ขั้นตอนทางการแพทย์ที่เรียกว่าการขจัดช่องว่างในเยื่อหุ้มปอด ช่วยให้ปอดยึดติดกับผนังอกเพื่อรักษาการพองตัวของปอดที่มีภาวะโพรงเยื่อหุ้มปอดมีอากาศหรือป้องกันไม่ให้ของเหลวติดค้างรอบบริเวณปอด

ในบางกรณี แร่หินสบู่ถูกฉีดเข้าสู่เยื่อบุผนังปอดโดยตรงเพื่อป้องกันการติดค้างของของเหลว รายงานของผู้ป่วยจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยจำนวนหลายร้อยคนที่ได้รับขั้นตอนทางการแพทย์นี้เป็นเวลาหลายสิบปี ไม่มีเคสของมะเร็งเซลล์บุผิวเยื่อหุ้มปอดชั้นนอกใดทั้งสิ้น

พบ

0

กรณีของโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอด
ผู้ป่วยมากกว่า
300
คน
ที่ได้เข้าร่วมการศึกษาวิจัยเป็นเวลา
14-40
ปี
Powered by Translations.com GlobalLink OneLink Software